วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ค่ายอาสาครั้งแรก ต่อ4

วันที่หก

วันของการเดินทางไกล ว่าแล้วก็นึกถึงตอนที่ตัวเองเข้าค่ายลูกเสือ พวกเพื่อนๆตื่นตั้งแต่ตี5 ทานข้าวตั้งแต่เช้าเลยแต่เวลาออกเดินทางจริงๆก็เกือบเก้าโมงแล้ว พอดีเรานั่งอยู่แถวๆนั่นเลยอดไม่ได้ อิอิ งั้นก็ไปเดินด้วยกันนะเด็กน้อย เหลืออยู่ประมาณ 2 – 3 กลุ่มยังเตรียมตัวทัน (เย้ๆๆได้ไปแล้ว) ท่าจะสนุกแหะ เหนื่อย ล้า ร้อน หิวน้ำ ท้องทุ่ง ควาย => ไล่เพื่อนอีกกลุ่มที่เดินหลงทางอิอิ วิ่งมาราธอนเลยเอ้า!!!วิ่งเร็วๆจะเอาใจช่วย สนุกจริงๆมีทั้งหมด 8 ฐาน เราเดินได้แต่ 6 ฐานเฮ้อเหนื่อยมากมาย จากอาการปวดวันนี้ของเดือน เลยต้องนั่งรถอาจารย์ที่ผ่านมาพอดี หว๊าเสียดายจัง! เดินต่อไปนะพี่ๆน้องๆจะเป็นกำลังใจให้แล้วกัน

เย้ๆๆๆมาแล้ว เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ได้แต่เอาน้ำเย็นๆไปให้พี่เค้า คงจะเหนื่อยกันน่าดูชม อิอิ ตอนบ่ายก็มีกิจกรรมเข้าตามฐานมีทั้งหมด 6 ฐานช่วงแรกให้เด็กประถมเข้าก่อน อืม...ก็สนุกดี แต่ช่วงบ่ายเด็กมัธยมเข้าช่วงนี้เด็กมันยังเล่นสนุกกันอยู่เลยมีสีสันขึ้นมาบ้าง โดยเฉพราะกลุ่มน้องเบียร์กับน้องเหมาๆ กร๊ากกกกก เรียกเสียงฮือฮาได้มากเลยหล่ะ กลุ่มนี้มีผู้ชายสองคนนอกนั้นก็..............เป็นกันหมด 555 เด็กๆเค้าก็น่ารักดี

เย็นๆก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ ส่วนเด็กๆก็ทำอาหารกินกันเอง สนุกสนานตามวัย ว่าแต่เด็กๆไม่เหนื่อยกันบ้างรึไงเนี่ย = =*

เริ่มมืดแล้วสาวๆระบำชาวไพร/น้องดาวก็เริ่มแต่งตัวกันแล้ว ว้าวววววถึงเวลาแสดงแล้ว........การแสดงเริ่มขึ้นโดยการแสดงของเด็กกองสามทั้งหมดมีอยู่สี่กอง และเราก็ได้รับเกียจติเป็นเด็กกองห้า555 พี่ๆค่ายอาสาฯอาจารย์เรียกอย่างนั้นอ่ะ......จนเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงสี่ทุ่มการแสดงก็จบลงอย่างสวยงาม เหนื่อย!!!!!มันส์!!!!!

ปล. เมื่อตอนเช้า ผอ. บอกว่าจะพาไปเลี้ยงขอบคุณพวกเราตอน สิบโมงเช้า (อิอิจะล้างท้องไว้รอนะคะ)

.........................................................แล้วเจอกันพรุ่งนี้ทุกคน.........................................

วันที่เจ็ด

วันนี้ตื่นสายกันทุกคน เมื่อคืนอาจารย์บอกว่าจะให้พี่ๆอาสาฯมานำน้องออกกำลังกาย แต่เท่าที่ดู คือ ทุกคนตื่นสายกันหมด เหอะๆ

สายๆสักหน่อยพี่ๆที่เป็นหัวหน้าโครงต่างๆไปสำรวจงานที่ทำไว้ ส่วนเราหรอ^^ก็เตรียมตัวไปเที่ยว มีเล่นน้ำด้วยให้เตรียมเสื้อผ้าไปด้วยที่ลืมไม่ได้คือ ล้างท้องไว้กินของฟรี 555

ถึงแล้วแม่น้ำมูล (บุ่งสระพัง) เราเหมาหมดเลยสี่แพนั่ง ไม่อยากบอกว่าอาหารเยอะมากๆประเดิมด้วยยำสาวโคโยตี้ (กุ้งเต้น) แ ล้วจะมีใครกินมะเนี่ยอาจารย์ ตามด้วยส้มตำ ยำเล็บมือนาง หม้อไฟสองหม้อ ไก่อบอีกสองตัว ปลาช่อนเผาตัวโตอีกสองตัว อ่า!!!อิ่มมากมายกินอิ่มก็เล่นน้ำ ^^ (ผอ. บริการดีมาก) ตอนเล่นน้ำสนุกมากมีกิจกรรมเยอะจริงๆคงจะเล่าไม่หมดเอาเป็นว่า สนุก!!! ของแถมคือ ได้ผิดสีแทนตามมา ก็ดันเล่นน้ำกลางแดดจร้าเลยอ่ะนะ

ตอนเย็นก็มีพิธีเทียน คือพิธีที่ทุกคนจะได้บอกถึงความรู้สึกที่ได้มาอยู่ค่ายมาอยู่ร่วมกับคนอื่น มาทำงานเป็นทีม มาสร้างความกลมเกลียวความสามัคคีระหว่างพี่น้อง มีอะไรก็พูดออกมาให้หมด (ซึ้งจนร้องไห้กันเป็นแถว) ใช้เวลานานมาก......

พี่ๆเพื่อนๆพูดกันหมดแล้วก็แยกย้ายกันไปนอน พิธีนี้ทำให้เราชาวค่ายทุกคนมีความสุข ความจริงใจและรักกันมากขึ้น (ดีมากเลย) พรุ่งนี้เช้าเราจะไปเที่ยวแล้วก็จะเลยกลับไปขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯกัน ที่สถานีรถไฟวาริชภูมิเวลา 19.30 น.

วันที่แปด

ตื่นๆๆๆๆๆ..........เช้าแล้วทุกคน อิอิ เตรียมกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ทุกคนไม่อยากกลับกันเลย (โลกแห่งความเป็นจริง....>>>> เกื้อการุณย์ 555) ที่นี่ให้อะไรเราหลายๆอย่าง โดยเฉพราะสิ่งศักสิทธิ์ที่ช่วยปกป้องพวกเราตลอดการทำค่าย

ทุกคนคะขึ้นรถได้แล้ว (ใจหายเหมือนกันนะเด็กๆมาส่งขึ้นรถกันเพียบมีทั้งร้องไห้ด้วยโอ๊ยยยยย!!!!อยากจะร้องไห้ตาม พูดแล้วก็เศร้า

สถานที่แรก ที่เราไปถล่มคือ เขื่อนปากมูลแต่เค้าปิดทำการเลยอด เราเลยไปที่ช่องเม็กเพื่อข้ามฝากไปที่ประเทศลาว โอ๊ะโอ!! เราลืมบัตรประชาชนมาด้วยตายแล้ว!!คนเดียวเท่านั้นคือเราเอง ทำเอาทุกคนวุ่นวายไปหมดแต่ก็ยังพอได้อย่างน้อยเราก็จำเลขบัตร ประชาชนได้ โชคดีไป โย่วๆๆๆ สบายดีลาว.............................................

.....ทุกความทรงจำจะอยู่ในความรู้สึกของเราเสมอตราบที่ยังหายใจอยู่....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การที่เราอยู่คนเดียวไม่ได้แปลว่าเราเหงาเสมอไป^^