วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คุณเคยเห็นคนตาบอดไม๊ ?

คุณเคยเห็นคนตาบอดไม๊ ? 

คนตาบอด...ที่เดินไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นคู่.... 
คุณอาจเจอพวกเขาได้ ในที่ที่มีคนอยู่กันเยอะๆ 
เช่น..ตลาดนัด... 
พวกเขาไปที่นั่น เพราะหวังว่า... คงจะมี คนใจบุญ 
ไปเดินอยู่ที่นั่นบ้าง... 
คนสองคน...ที่จับมือกัน...ค่อยๆ เดินกระเถิบไปด้วยกันทีละนิด..ทีละนิด.
เพราะต่างคน ต่างก็มองไม่เห็นอะไรกันทั้งคู่... 
นอกจากไม้เท้าคนละอันแล้ว...ในมือพวกเขาถือวิทยุเก่าๆเครื่องนึง... 
กับไมค์อีกอีกหนึ่งอัน...ที่ขาดไม่ได้ 
ก็คือขันอลูมิเนียม... 
อาวุธสำคัญที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน.. 
ผมไม่ คุ้นหู กับเพลงที่เขาร้องนักหรอก.. 
แต่ก็ดูว่าเขาตั้งใจร้องเหลือเกิน... 
และดูเหมือนเขาก็ หวัง ว่าคุณจะต้องชอบมัน... 

ผมเห็นเขาจับมือกัน... 

วินาทีนั้น...
ทำให้ผมนึกถึงอะไรบางอย่างที่ผมเคยมองข้ามมาตลอด.. 
คุณเคยนึกถึงความรักของ..คนตาบอด..หรือเปล่า.... 
ตนตาบอดรักกันได้ยังไงนะ...
เพราะคนตาบอด...ไม่เคยรู้เลยว่า... 

คนรักของเขา..มีหน้าตาเป็นอย่างไร.. 

คนตาบอด..จะรู้จักก็เพียงจิตใจของคนรักของเขาเท่านั้น. 
เมื่อเขามีความพอใจกันและกัน.... 
ไม่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี 
ให้กังวลใจ...เพราะต่างคนก็ต่างไม่มีสิ่งนี้... 
ต่างคน..ต่างก็ไม่มีเงิน... 
ตาสองข้าง ปิดสนิท....แต่เปิดใจเข้าหากัน.. 
คนสองคนที่อยู่ด้วยกัน ด้วย " ใ จ " ล้วนๆ... 

ความรัก....ก็เกิดจากตรงนั้น. 

คนตาบอด พาคนที่เขารัก ไปด้วยกันทุกหนทุกแห่ง... 
คนตาบอด ไม่เคยกลับบ้านดึก... 
คนตาบอด ออกจากบ้านพร้อมกัน...และกลับถึงบ้านพร้อมกัน... 
พวกเขาเคยแยกกันบ้างหรือเปล่านะ.... ? 
คุณรู้หรือเปล่า.....คนตาบอด 
จับมือของคนที่เขารักไว้ตลอดทั้งวัน... 


คุณเคยทำอย่างเขาบ้างไม๊... ? 

ผมกลับมานึกถึงความรักของคนที่ตาดี... 
หลายๆ คน มีเกียรติยศ หน้าที่ การงาน ที่ดีเหลือเกิน... 
หลายๆ คน ทั้งหล่อ ทั้งสวย...ทั้งรวย ทั้งฉลาด... 
แต่พวกเราหลายๆคนกลับต้องมาเสียใจเพราะความรัก... 

หรือว่าพวกเรามองเห็นกัน....เพื่อจะเรียกร้องสิ่งที่เราต้องการให้มากขึ้น.. 

เอ....พวกเราคาดหวังอะไรจากคนที่เรารัก....มากเกินไปหรือเปล่านะ... 
อนาคตของคนตาบอด..อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้... 
ดูเหมือนเขาจะ...สงสัยก็เพียงแต่ว่า... 
วันพรุ่งนี้...จะมีคนใจบุญซักกี่คน... 
ที่ทำให้พวกเขากลับบ้านด้วยกันอย่างมีความสุข.... 
ตอนที่ผมเขียนกระทู้นี้อยู่...พวกเขาก็คงนอนหลับกันแล้ว... 
พวกเขาคงไม่มีงานที่ต้องทำดึกๆ เหมือนผมหรอก...คุณว่าไม๊ ?? 

ขอบคุณตลาดนัด...ที่ทำให้ผมเห็นภาพดีๆในวันนี้.... 
ผมเชื่อว่าครั้งหน้า.ที่คุณเห็นคนตาบอด...ใจของคุณจะเปิดกว้างขึ้น... 
คุณอาจมองเห็นภาพที่คุณไม่เคยมองเห็น... 
ไม่ใช่ด้วยตา...แต่เห็นด้วยหัวใจ... 
เหมือนกับภาพที่ผมได้เห็นในวันนี้... 

Ps... ขอบคุณ...ที่อ่านจนจบ....
Credit By Fwd Mail

นิทานแรงๆ..ที่คนต่างชาติ(บางคน) มอบให้คนไทย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อครั้งที่พระเจ้าสร้างโลก
พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ ของวิเศษต่างๆ

พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทร ทั้ง7 โดยการวางของวิเศษของพระเจ้า
พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดี คู่กันไป

เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใด
สมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ

ทรง เอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่า วางไว้ให้อเมริกา
แล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่า กับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย

เอาป่าอเมซอนวางไว้ให้บราซิล
ทรงเอาไข้ป่า วางไว้ให้ด้วย

เอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้


เอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาล เพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก
แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศ และความแห้งแล้งไว้ให้


ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ ทั้งหมด
จึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน

คราวนี้ พระองค์ทรงลืมประเทศรูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีน
ทรงสะพายถุงวิเศษแล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป


แต่ด้วยความที่เขาสูงมากเกี่ยวถุงของพระเจ้าขาด
ข้าวของที่ดีๆที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ
เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์
ศิลปะวัฒนธรรมดีๆ อาหารอร่อยที่สุดในโลก
ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด

ว้า แย่แล้ว พระเจ้า ทรงคิด ประเทศนี้
ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆทั้งหมดแน่นอน พระเจ้า
ทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว
พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหว ให้ญี่ปุ่นไปแล้ว

ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ประเทศอื่นๆ
จะมาฟ้องร้องพระองค์ได้ว่าพระองค์ไม่ยุติธรรม
จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอที่ จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆได้

เมื่อทรงคิดได้
เพื่อเป็นการป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้
ไม่ให้ล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้าง คนไทยขึ้นมา


ถ้ามีคนไทยอยู่ล่ะก็ต่อให้สมบูรณ์แค่ไหนไทยก็ไม่มีวันเจริญ
..................................
เพราะเราไม่สามมัคคีกัน ฝรั่งก็เลยมีนิทานแรงๆอย่างนี้แหละครับ เจ็บใจ...
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก thammarat