วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

นานแล้ว

  มันเป็นเวลานานมาก ที่ไม่ได้เข้ามาเขียนบล็อคเลย ครั่งล่าสุดจำไม่ได้ 
  ช่วงชีวิตที่ผ่านมาทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะอยู่ให้มีความสุขมากที่สุด เมื่อความทุกข์มาเยือนอยู่ตรงหน้า 
  

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ความซวยของผู้ชาย


1. มีแฟนหลายคน - เจ้าชู้ 

มีแฟนคนเดียว - กลัวแฟนล่ะสิ 
ไม่มีแฟน - เกย์ 

2. เห็นผู้หญิงแล้วเดินเข้าไปจีบ - หน้าหม้อ 
เห็นผู้หญิงแล้วมองตาม - มัวแต่มองจะได้กินมั้ย 
เห็นผู้หญิงแล้วเฉยๆ - เกย์ 

3. มีแฟนแก่กว่า - กะเกาะเค้ากินล่ะสิ 
มีแฟนอ่อนกว่า - หลอกเด็ก 
มีแฟนอายุเท่ากัน - แม้แต่เพื่อนยังไม่เว้นเลย คิดดูๆ 

4. มีแฟนแล้ว ตกเย็นไปกินข้าวกับแฟน - มันเห็นแฟนดีกว่า

เพื่อน 
มีแฟนแล้ว ตกเย็นไปกินข้าวกับเพื่อน - มันเห็นเพื่อนดีกว่าแฟน 
มีแฟนแล้ว ตกเย็นกลับบ้านคนเดียว - มีชู้ 5. ชอบนัดเจอกับเพื่อนสนิทผู้หญิง - คิดนอกใจ 

ชอบนัดเจอกับเพื่อนสนิทผู้ชาย - เกย์ 
ชอบนัดเจอกับเพื่อนสนิทชายหญิง - หมู่ 

6. ขอจูงมือแฟนตอนกลางวัน - ไม่เอานะ อายเค้า 
ขอจูงมือแฟนตอนเย็นๆ - ยังไม่ค่อยมืดเลยนะคะ ไว้ก่อนนะ 
ขอจูงมือแฟนตอนกลางคืน - เดี๋ยวมันต้องไปมีอะไรกันแน่ๆ 

7. เดินนำแฟนเข้าห้าง - รู้จัก Lady first มั้ย ?? 
เดินเข้าห้างให้แฟนเดินเข้าก่อน - มันปล่อยให้แฟนมันเปิดประตู 
เดินเข้าห้างเปิดประตูแล้วให้แฟนเดินเข้าไปก่อน - โคดเว่อเลย

ว่ะ 

8. เป็นหัวหน้าครอบครัว - เผด็จการ 
มีอะไรต้องปรึกษาแฟน - ไม่กล้าตัดสินใจ 
ให้แฟนเป็นหัวหน้าครอบครัว - กลัวเมีย 

9. แฟนไม่สวย - หาได้แค่เนี้ยเรอะ 
แฟนหน้าธรรมดาๆ - ก็งั้นๆแหละว้า 
แฟนสวย - ไม่สมกันเล้ย 

10. ผู้ชายนิสัยธรรมดา - น่าเบื่อ 
ผู้ชายนิสัยเลว - เลวว่ะ 
ผู้ชายนิสัยดี – เธอดีเกินไป


วันนี้ของวันวาน( Today's day ): รักแต่ละทีไม่เคยมีบังเอิญ

วันนี้ของวันวาน( Today's day ): รักแต่ละทีไม่เคยมีบังเอิญ

รักแต่ละทีไม่เคยมีบังเอิญ

รักที่เกิดจากการสบตาครั้งแรกเป็นรักที่ลึกลับที่สุดและอาจทำให้มนุษย์เจ้าเหตุผลหลายคนจำต้องคิดถึงสิ่งไร้เหตุผลต้นปลายหรือไม่ก็จำนนให้กับความเชื่อเรื่อง‘ต้นเหตุที่ถูกลืม’เช่นอดีตชาติเพราะความรักชนิดนี้อาจพาไปสู่การร่วมอยู่กินตลอดชีวิตเพียงด้วยความรู้สึกตั้งแต่แรกพบว่า‘คนนี้คู่เรา’และพบในนาทีสุดท้ายยามตายจากกันว่า‘อย่างนี้ก็มีจริง’น้ำตาอาลัยและความมั่นใจว่าจะได้พบกันอีกคือบทสรุปที่ทำให้รักลึกลับชนิดนี้เป็นที่กระจ่างขึ้น
รักที่เกิดจากการเกื้อกูลกันและกันเป็นรักที่เริ่มจากความปรองดองมีความรู้สึกแสนดีอบอุ่นและสุขสบายภายในรัศมีสายตาของอีกฝ่ายอย่างรู้ว่าจะไม่ทอดทิ้งกันมีความเสมอกันรักชนิดนี้เป็นสิ่งมีที่มาที่ไปและชวนให้เห็นว่าความรักหาใช่สิ่งมหัศจรรย์เกินความเข้าใจปัญหาก็คือชั่วชีวิตคนๆหนึ่งอาจไม่พบใครที่เต็มใจให้ความร่วมมือเกื้อกูลกันมากพอเลยสักครั้งเดียว


รักที่เกิดจากความใกล้ชิดเป็นรักที่อาศัยการอยู่ด้วยกันบ่อยๆใกล้กระแสกายกระแสใจของอีกฝ่ายแล้วไม่รู้สึกขัดแย้งไม่เกิดความรังเกียจหญิงชายที่เข้าข่ายดังกล่าวจะพบว่าเพียงใกล้กายธรรมชาติระหว่างเพศก็ทำงานแล้วดึงดูดให้อยากประกบติดกันได้แล้วรักชนิดนี้อาจดูเป็นจริงเป็นจังและมีตัวตนจับต้องได้ต่อเมื่อลองพยายามจับต้องให้มั่นมือจึงรู้ว่าจริงหรือเก๊แข็งหรือเหลวคงทนหรือละลายเร็วกันแน่

รักที่เกิดจากการคุยถูกคอเป็นรักที่นับว่ามีพื้นฐานดีระดับหนึ่งเพราะการคุยกันถูกคอมักหมายถึงการพูดกันรู้เรื่องรวมทั้งมีเรื่องที่สื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้แต่การพูดคุยมิใช่ทั้งหมดของการอยู่ร่วมกันหากความแตกต่างด้านอื่นชวนให้ไม่สนุกเกิดความสนุกจากการคุยอย่างเดียวในระยะยาวจะคุยแล้วสนุกน้อยลงเรื่อยๆหรือกระทั่งยิ่งคุยยิ่งเป็นทุกข์อยากเมินหนีออกไปทุกที

รักที่เกิดจากการคุยแบบไม่เคยเจอตัวเป็นรักที่มีเสน่ห์วาบหวามเพราะอาจไม่ต้องยืนพื้นอยู่บน‘โลกความจริง’ใดๆอาศัยเพียงจินตนาการอันเกิดจากลีลาเจรจาท่าเดียวพอปัจจุบันอินเตอร์เน็ตกลายเป็น‘อีกโลกความจริงหนึ่ง’ที่รักชนิดนี้เกิดขึ้นที่โน่นที่นี่และอาจพังลงด้วยความหนาวเย็นเพียงเมื่อปรากฏ‘ที่สุดของความจริง’ยามเจอตัวกันน้อยนักที่ความจริงกับเรื่องเหนือจริงในจินตนาการจะประจบกันได้สนิท

รักที่เกิดจากความเห็นใจเป็นรักที่น่าสับสนเพราะคนเรามักแยกไม่ออกว่า‘ความรัก’กับความ‘สงสารมาก’ต่างกันตรงไหนคนบางคนสมควรได้รับการสงสารไม่ใช่เพราะเรียกร้องความสงสารแต่เพราะเหมือนเป็นคนดีตกยากเหมือนลูกหมาลูกแมวน่ารักที่ตุหรัดตุเหร่หาคนเลี้ยงดูเมื่อตรงมาทางเราแล้วปฏิเสธก็เหมือนใจไม้ไส้ระกำจนชวนให้รู้สึกผิดรุนแรงไม่อาจทนดูดายรักที่มีแต่ความสงสารและเห็นใจอย่างเดียวอาจจบลงด้วยโศกนาฏกรรมในทางใดทางหนึ่งไม่ทางกายก็ทางจิตวิญญาณเพราะในระยะยาวมนุษย์ทุกคนต้องเห็นใจตัวเองก่อนคนอื่นไม่อาจทนเสียสละให้กับความน่าสงสารของคนอื่นแล้วปล่อยให้ทั้งชีวิตของตนเต็มไปด้วยความน่าสงสารนานัปการไหว

รักที่เกิดจากความคิดอยากตอบแทนเป็นรักที่มาพร้อมกับความรู้สึกถูกรู้สึกผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตระหนักว่าทางเดียวที่จะตอบแทนคือการมอบความรักความพิศวาสใหักับผู้ทรงพระคุณซึ่งมาสนใจตนภาคหนึ่งของความรู้สึกจะถูกต้องในขณะที่อีกภาคจะบาดใจและเต็มไปด้วยความ‘ผิดปกติ’รักชนิดนี้เหมือนการหลอกตัวเองหลอกคนอื่นกระทั่งนานถึงจุดหนึ่งจะรู้ซึ้งว่ารักหลอกเป็นอย่างไรทรมานใจได้แค่ไหน

รักที่เกิดจากการได้รับความเอาใจใส่ยิ่งยวดเป็นรักที่อีกฝ่ายยอมตนเป็นข้าทาสปล่อยให้ตนเอาแต่ใจได้ทุกอย่างรักชนิดนี้เป็นอารมณ์ใจอ่อนและไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือรู้สึกผิดเกินกว่าจะหลอกใช้โดยไม่ให้อะไรตอบแทนก้ำกึ่งอยู่ในระหว่างการเห็นค่ากับการไม่เห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในสายตาแม้แต่นิดเดียวรู้เพียงถ้ามีอีกฝ่ายอยู่ตนจะได้ทุกสิ่งราวเจ้าชายหรือเจ้าหญิงแต่ก็พร้อมจะเย็นชาหรือเมินหน้าหนีเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบตัวเลือกอื่นที่คุณสมบัติพร้อมกว่ากัน

รักที่เกิดจากความหลงรูปสมบัติภายนอกเป็นรักที่ปล่อยให้อิทธิพลของรูปร่างหน้าตาน้ำเสียงหรือลักษณะทางกายภาพอื่นๆเข้าครอบงำรักชนิดนี้ไม่มีหลักค้ำไม่มีฐานยืนเลื่อนลอยและต้องออกแรงจนเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อหาเหตุผลสนับสนุนว่าเป็นรักที่สมควรแล้วซึ่งเพียงไม่กี่วันก็อาจพบว่ามันไร้เหตุผลสิ้นดีกับการรักษาความรักไว้เพื่อความเหนื่อยเปล่า

รักที่เกิดจากความติดใจคุณสมบัติเด่นเป็นรักที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดและความตรึงใจอาจจะจากการฟังลีลาการพูดหรือการเห็นความสามารถในทางใดทางหนึ่งหรือการพลอยปีติแรงไปกับความสำเร็จรุ่งเรืองส่งกลิ่นหอมหวนขจรขจายของอีกฝ่ายรักชนิดนี้มักขาดๆเกินๆเต็มไปด้วยก้าวกระโดดแบบกระโดดมาแล้วกระโดดไปไม่ค่อยยืนอยู่บนความเข้ากันได้หลายปีผ่านไปอาจต้องตระหนักว่าความเด่นเป็นแค่เครื่องล่อความสนใจในระยะแรกหาใช่องค์ประกอบแห่งรักในระยะยาวไม่

รักที่เกิดจากการหลงภาพลวงตาเป็นรักที่ยืนอยู่บนมายาฝ่ายหนึ่งอาจหวังผลจึงสร้างนิสัยน่ารักน่าใคร่ขึ้นมาล่อตาล่อใจให้หลงติดรักชนิดนี้อาจเรียกแรงทะยานได้ขนาดถูกฉุดให้หัวปักหัวปำยิ่งถลำลึกลงไปในกับดักหรือเหยื่อล่อมากขึ้นเพียงใดหูตาก็ยิ่งมืดมัวเห็นผิดเป็นชอบเห็นกงจักรเป็นดอกบัวมากขึ้นเท่านั้นรู้ทั้งรู้อยู่ในส่วนลึกว่าถูกหลอกใช้แต่ความคิดก็ถูกดึงให้ปักใจศรัทธาในเรื่องหลอกขอให้ได้บอกตัวเองว่าอีกฝ่ายรักตนแคร์ตนเท่านั้นพอจะยอมบุกน้ำลุยไฟหรือกระทั่งตกนรกทั้งเป็นก็ยังไหว

รักที่เกิดจากความเกลียดเป็นรักที่ซับซ้อนอาจเริ่มมาจากความเหนื่อยล้าเคยแค้นมากจ้องจับผิดมากด่ามากกระทั่งใจผูกอยู่กับอีกฝ่ายอย่างเหนียวแน่นและบีบให้ต้องรู้รายละเอียดของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องยอมรับข้อดีแล้วเกิดแรงดันของความอยากขออภัยหรืออยากให้อภัยหรืออยากญาติดีกันนั่นเองพลังความเกลียดหรือความแค้นเก่าๆจึงแปรตัวเป็นราคะเพราะไฟโทสะเป็นญาติสนิทกับไฟราคะต่างก็เป็นไฟมืดด้วยกันมีกิจเป็นการเผาผลาญให้ใจเกิดความร้อนรุ่มเหมือนๆกันเคยเกลียดแรงแค่ไหนก็กลายเป็นราคะแรงแค่นั้นรักชนิดนี้อาจเต็มไปด้วยความไม่ได้อย่างใจระหองระแหงกลับไปกลับมาระหว่างเห็นข้อดีและจับผิดเพ่งโทษ

รักยังมีเหตุอีกมากแต่บางความรักก็ไม่ใช่ความรักเช่นรักความรวยนั้นเป็นคนละเรื่องกันกับรักคนรวยความรวยอย่างเดียวไม่มีทางเป็นเหตุแห่ง‘ความรู้สึกรักคน’ได้เลย

รักระหว่างหญิงชายจะเกิดจากเหตุอันใดยืนพื้นอยู่บนบุญบาปแบบไหนก็ตามท้ายสุดก็มีฤทธิ์ผูกใจไว้ไม่ให้ได้เป็นไทในตนเองจนกว่าใครจะแสวงหา‘ความรักอิสรภาพทางใจ’และพบกับรักชนิดนั้นจริงจึงยุติการสร้างเหตุแห่งทุกข์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งลงเสียได้อย่างถาวร


ถ้ายังไม่มีความรัก
เรารู้แน่ว่าจะต้องทุกข์แบบเหงา
แต่ถ้าจะฝืนมีความรักให้จงได้
เราไม่รู้เลยว่าจะต้องทุกข์แบบไหนแน่

คืนวันนั้น

คืนวันนั้น... 
ผมกับยายนั่งคุยกันริมระเบียงถึงเรื่องในอดีต
วัยเพียง
 15 ปี
ทำให้ผมนั่งฟังยายเล่าได้ไม่นาน
สักพักผมก็ยุกยิกอยากจะไปเล่นกับเพื่อน
ยายคว้ามือผมไว้
 

มือเหี่ยวย่นน่ากลัวเหมือนหนังตายซาก
สายตายายดุดัน แต่เหม่อลอย
มองหน้าผม เหมือนไม่ได้มอง
ผมนั่งข้างยายอย่างหวาดกลัวในกิริยา
แล้วฟังเรื่องเล่าจากปากยาย
ยายเล่าว่า...
 
สมัยก่อนเมื่อผู้ใหญ่ในบ้านตาย
ผู้ใหญ่จะนำมะพร้าว ฝรั่ง มะม่วงในสวน
 มาบนเจ้าที่ 
ไม่ให้ผู้ตายมารับตัวเด็กๆในบ้านไปอยู่ด้วย
ยายถามผมว่า...
 
ถ้ายายตายไปแล้วกลับมารับผม
ให้ไปอยู่ใน โลกอีกโลกด้วย
ผมจะไปกับแกไหม
 
ผมหัวเราะในความงมงาย
คนแก่ก็อย่างนี้
 
พยักหน้าเสียหน่อยไม่ให้แกน้อยใจ
แล้วผมก็รีบเดินไปเล่นกับเพื่อน
ยายหัวเราะอยู่คนเดียวเกือบครึ่งชั่วโมง...
อีก
 วันต่อ มาแกก็เสียชีวิตแบบประหลาด
กลางดึกคืนสุดท้าย
 

ยายลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเสื่อที่ปูนอน
ปากตะโกนเสียงแหบว่า...
ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา ฉันไม่ไป ไม่เอา
 ฉันไม่ไป
แล้วก็หวีดร้องเหมือนปีศาจ
ทำให้พ่อกับแม่ของผมตกใจ
ต้องรีบจุดตะเกียงเป็นการใหญ่
บ้านริมน้ำของเราใช้ตะเกียงเป็นดวงไฟ
และใช้ยากันยุงแบบจุดม้วนเพื่อไล่ยุง
หลังจากห่มผ้าให้ยายแล้ว
ผมก็นอนอยู่ข้าง ๆ
 
ตัวแกสั่นกุกกัก
 
ลองหันไปดู
 
ตาแกลืมโพลง
 
น้ำหมากไหลย้อยออกมาจากปากตอนนอน
ตัวเย็นชืด
 
ทดสอบหยิกไปที่หลังมือ
ยายก็ไม่ตอบสนอง
 
ทุกคนรีบมาดูอาการ
 
แล้วลงความเห็นว่ายายจากพวกเราไปแล้ว
หลังคืนสวดศพ
 วัน
ผมนอนบนเสื่อกับพื้นกระดาน
ลมแม่น้ำพัดตีเข้าบ้าน เย็นสบาย
กลุ่มดาวส่องประกายระยิบระยับ
แว่วเสียงไม้กระดานลั่นเหมือนมีคนเดิน
น้ำหนักมือกดลงบนหน้าอกผมขณะนอนหงาย
เสียงแหบแห้งของยายถามผมช้าๆ

ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....
ร่างเกร็งแข็งพยายามยกมือมาพนมกลางอก

ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....
เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำมาอีกครั้ง
ผมน้ำตาไหลอาบแก้ม
 
ริมฝีปากหมุบหมิบสวดคาถานะโมสามจบ
กระท่อนกระแท่นเต็มที
เพราะความหวาดกลัวแล่นขึ้นสมอง
น้ำหนักทับบนหน้าอกหนักขึ้นทุกทีที่สวดมนต์จบคาบ
น้ำหนักยายคงไม่เกิน
45 กิโล
แต่ที่ทาบทับบนหน้าอกตอนนี้
ก็น่าจะปาเข้าไป
 60 
กิโลแล้ว
กระดูกกับปอดตรงทรวงอกถูกบดทับจนรวดร้าว
ผมขอร้องยายว่า...
 

อย่าเอาผมไปเลย
ให้เวลาอีกนิด
 

รอให้ผมสนุกกับเพื่อนฝูงจนเต็มคราบก่อนค่อยกลับมารับ

เสียงยายหัวเราะข้างหู
ผมขนลุกซู่ทั่วตัว
 
กลิ่นน้ำหมากคละคลุ้งจนเสียวสันหลัง
แล้วน้ำหนักที่อัดแน่นลงบนทรวงอกก็ค่อยถ่ายออกทีละน้อยยายหัวเราะ
หมายถึงว่าตกลง...
 
เวลาผ่านไปสองปี
 
การเล่นกับเพื่อนคงลดน้อยลง
หันไปอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลการเรียน
ผมลืมเรื่องยายไปเสียสนิท
มาเมื่อคืนวาน ผมปิดไฟนอน
หลับตาสวดมนต์สามคาบ
แล้วแผ่ส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ
พอลืมตามองเพดาน
 
ในห้องมืด...
 
หางตาผมก็มองเห็นยายนั่งอยู่ข้างๆ

ไปอยู่กับยายนะลูกเอ๊ย....
เสียงแหบโหยดังแผ่วซ้ำกับเมื่อครั้งอดีต
ผมแทบเป็นบ้า
 
ร่างยายเต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนอง
ดวงตาหลุดหายไปหนึ่งข้าง
น้ำหมากกับเศษฟันหักร่วงหยดแหมะ ๆ
เปรอะที่นอนเต็มไปหมด
กลิ่นเหม็นของผีตายซากอบอวลเต็มห้อง
คราวนี้ยายเอาจริงแน่

ผมไม่ไปกับยายหรอก
ผมส่ายหัว
 
มือประกบพนมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ยายนั่งนิ่ง
 
ตาข้างที่ยังเหลืออยู่มองผมอย่างรวดร้าวเจ็บช้ำ
ไม่มีเสียงหัวเราะจากปากแก
เพียงเสี้ยววินาทีแกปราดขึ้นมานั่งทับอกผมบนเตียง
มือเหี่ยวงุ้มบีบคอ
และพยายามล้วงเข้าไปในปากผม
เรี่ยวแรงเหมือนผีสิง
ผมแทบสู้แกไม่ไหว
 
ยายเอาคนอื่นไปแทนได้ไหม
เอาเพื่อนผมไปแทนได้ไหม
?' 
ผมเอ่ยถามทางดวงจิต

'.....................' 

แกนิ่งเงียบ
 
ยายเอาตัวเพื่อนผมที่เข้ามาอ่านเมล์นี้ไปนะ
ถ้าอ่านแล้วไม่ตอบเมล์ผมหรือไม่ส่งต่อ
ตอนกลางคืนเค้านอนหลับ
ยายเข้าไปล้วงปากกินเครื่องใน
กินวิญญาณเค้าเลยนะยาย..

เสียงยายก้มลงมาหัวเราะริมหูผม...
ยาวและนาน
 
เหมือนกับว่าสะใจ
 
ในข้อเสนอ ก่อนจะหายตัวไป...