วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ค่ายอาสาฯจังหวัดตาก…..............


ค่ายอาสาฯจังหวัดตาก..............
เก็บตกก่อนออกค่าย
18.35น. ก่อนออกเดินทางอยากบอกว่า ห้า~~แวะไปหาไรกินร้านข้างๆวิลัย(เดินตามกลิ่น) ไปกัน 7 คน มันก็ตลกมั๊ยว่า..สั่งกับข้าวเหมือนกันกลัวว่าจะไปไม่ทันรถออก แต่บังเอิญ!!! พี่ดันโทรมาบอกว่า..แนนสั่งข้าวให้พี่ด้วย 7 ชุด เหอะๆ >>> สรุปแล้วไอ้เรารีบเพื่อคัย
วันนี้คงไม่มีอะไรมาก แค่รอเวลาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราออกค่าย และครั้งนี้ก็เช่นกัน มันยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม เพลงแรกที่ดังขึ้นคือ..เพลง (มันของคู่กัน)คงไม่ต้องบอกนะว่าเสียงกลองดังขึ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้นอิอิ.......มันก็ดังไง
หล่ะ^^
ถึงแล้วเมืองตาก เฮ้อถึงซะทีตากแต่จุดหมายของเราคือโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านแสมใหญ่ ตำบลสามหมื่น อำเภอแม่ละมาด
จังหวัดตาก
ตอนนี้เรากำลังอยู่อำเภอแม่ละมาด เราจะต้องขนของย้ายไปยังรถอีกคันเพื่อจะได้เดินทางอย่างสะดวก กว่าจะขนเสร็จก็ประมาณเก้าโมงไปแล้ว หมดแล้ว!!!!ต่อจากนี้คือการเดินทางอย่างแท้จริง.......
ต้นไม้ เสียงนก หมอกที่กำลังจะจางหายไปกับแสงแดดอ่อนยามเช้า บรรยากาศทิวทัศน์มันยังกะฝันเลยหล่ะ แต่ติดที่ว่าเส้นทางมหาโหด(ถนนเก่ามากๆ) ตับไตไส้พุงคงจะสลับที่กันหมดแล้ว สงสัยหลังจากกลับแล้วต้องไปตรวจเช็คร่างกายซะหน่อย ไกลแสนไกลสุดโค้งขอบฟ้า....มันนานจริงๆ กว่ารถจะวิ่งผ่านสักคันรอเป็นชั่วโมง ว้าวววว!!!!!!ถึงแล้วขอบคุณพระเจ้า พอมาถึงพวกเราก็ไปประชุมกันที่โรงอาหารของเด็กๆที่นั้น แนะนำตัวกับผู้อำนวยการให้รู้จัก ต่อไปเราจะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นั่นที่ที่ทุกคนเคารพนัพถือกัน พอไหว้เสร็จก็กินข้าว กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว พี่นัดประชุมอีกที่บ่ายสองโมงเจอกัน ค่ายนี้ได้เริ่มแล้ว
แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกไปรื้ออาคารเรียนออก ส่วนอีกกลุ่มไปขนทรายเข้าโรงเรียน(ฉ๊านนนนนนนเอง)ขนจากคลองน้ำไหล...เอ้า!!คนละไม้ละมือ ทั้งหมดก็สามคันรถกระบะมือระบมไปตามๆกันTT_____TT
แป๊บเดียวสี่โมงเย็นแระ พี่เลยพาไปเล่นน้ำตกอิอิ...แต่น่าเสียดายอีกครั้งเราดันเป็นวันนั้นของเดือน(ค่ายที่แล้วก็เป็นเง้อเซ็งเลย) หกโมงเย็นกินข้าว อยากบอกว่าเป็นอาหารที่สุดแสนจะอร่อยมากมาย (น้ำพริกกระปิ ไข่เจียว) อาหารย่อยสักพักก็ตามด้วยกิจกรรมสันทนาการ วันนี้คืนแรกของค่าย กิจกรรมเลยไม่มากเท่าไหร่ แต่พรุ่งนี้สิ ลุย!~
ผ่านไปอีกวันแล้วนะไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นกับวันพรุ่งนี้แต่วันนี้ฉันทำเต็มที่ที่สุดแล้ว

เก็บตกก่อนกลับ

เพลงรักน้อง

เจ้านกน้อยล่องลอยโผล บิน

จากแผ่นดินทะเลสีคราม

ความเหงาเอยเหมือนคอยเหยียบย่ำให้ทรมาน

ฝ่าลมแล้วด้วยแรงท้าทาย

สู่จุดหมายที่ไกลริบตา

เพียงพบเธอทุกวันเห็นหน้าอิ่มเอิบดวงมาลย์

* ดอกไม้แย้มกลีบ บานแล้วในใจฉัน

จงหอมชั่วนิรันดร์มิโรยร่วงผ่านจากใจเราผอง

จงมอบความรักด้วยใจพักดี มอบชีวีให้เธอคุ้มครอง

** ความหวังดีจงมาปกป้องทั้งตื่นและฝัน

เก็บตกก่อนกลับ

ภาษากะเหรี่ยงวันละคำ วันนี้เสนอคำว่า

เง หมายถึง สวย

แนนเง หมายถึง แนนสวย 555

17-10-52


17-10-52
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ทำค่าย
วันนี้ตื่นตั่งแต่ตีสี่เพื่อจะมาทำอาหารให้กับทุกๆคนในค่ายได้ทานกัน อะไรเยอะแยะไปหมดเลยวันนี้ครัววุ่ยวายหรือว่ามันวุ่นวายแบบนี้อยู่แล้วนะเหอะๆ กว่าจะได้กับข้าวแต่ละอย่างกว่าจะหั่น ต้ม นึ่ง สารพัดนานาอาหาร เราไม่ได้ทำให้เฉพาะชาวค่ายทานแต่เราทำให้คนทั้งโรงเรียนทานด้วยมั้งมันก็เลยดูวุ่นวายยยยยยย
เพื่อนบอกว่าเป็นเพราะเรามาอยู่นะเนี่ยกับข้าวถึงได้อร่อยกว่าทุกวัน^^/*O* 555 มันเป็นไปได้หริอนี่
คืนนี้มีพิธีเทียนที่ชาวค่ายจะทำกันกันครั้งในคืนสุดท้ายของค่ายอาสาฯซึ่งเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์มากและหลังจากนั้นก็จะมีพิธีเปิดใจสำหรับชาวค่ายหลังจากนั้นก็มีมินิปาตี้ NURSเล็กๆบนดอยสูงอิอิ
หากมีโอกาสเราคงได้มาร่วมทำค่ายกันอีกนะ
(คนอย่างพวกเราชอบอาสาฯ)
ปล. ไปซื้อของฝากที่แม่เมย จ.ตาก

16-10-52


16-10-52
เช้าวันนี้ตื่นตั้งแต่เช้าเพราะต้องมาออกกำลังกาย พี่บอกว่าจะต้องคิดคนละท่าเพื่อนำเพื่อนๆแต่เราคิดนะ>>>สงสัยพี่คิดท่าออกกำลังกายไม่ออกโดยเพราะคนนำ อิ อิ
ส่วนวันนี้ก็ออกโครงสร้างเหมือนเดิม ที่แรกนึกว่าจะได้ก่ออิฐก่อปูนที่ไหนได้ก็ไปขนทรายเข้ารงเรียนทั้งเช้าทั้งบ่าย งานวัน พรุ่งนี้ก็จะมีก่ออิฐด้านหน้าอาคารเรียนเพราะวันนี้ก่อด้านหลังก่อน อาจารย์ ตชด. บอกว่าคงจะเสร็จประมาณค่ำๆใกล้ จะได้เห็นความสำเร็จแล้วสินะเรา
เฮ้อ!!!ไม่อยากกลับเลยยยยยยอยากออกเดินทางแบบบนี้ต่อจังง
อ่ะ!!! วันนี้มีแขกรับเชิญมาด้วยคือ พี่เกี้ยวมาช่วยเป็นหัวหน้านำสันทนาการโดยเฉพาะ ตั้งแต่ทำค่ายมาค่ายนี้แหละสันได้ใจจริงๆ

15 – 10 - 52


15 – 10 - 52
วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อจะเข้าเวร หกโมงเช้าง่วงก็ง่วง มืดก็มืด น่ากลัวก็น่ากลัว ไม่รู้จะทำอะไร เพื่อนอีกคนก็เล่นโดมิโน่ โอ๊ยยยยง่วง งั้นของีบก่อนนะทุกคนแป๊บเดียวเองอิอิ สักพักเพื่อนก็มาปลุก ไม่รู้จะทำอะไรเลยเล่นต่อเพลงมันซะเลยอิอิสนุกมากๆ เอาเป็นว่าวันนี้คนที่นอนอยู่ตรงกับห้องเข้าเวรไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยหล่ะ...เช้าแล้ว
และอีกวันหนึ่งที่เราอยู่โครงสร้าง วันนี้ไปตัดไม้ไผ่ที่นอกหมู่บ้าน>>>ครูใหญ่แบบว่าขับรถไม่ดู รถ-ถนน-คนเลยที่เดียว555ขาซิ่งประจำดอย
พอมาถึง รร. ก็ต้องเก็บไม้ลงจากรถ แผ่ไม้ไผ่ กว่าจะเสร็จก็ตั้งนาน ไปๆๆๆๆไปอาบน้ำกันวันนี้สันทนาการเขาหนุกจริงๆ
ฝันดี............

14 – 10 - 52

14 – 10 - 52

วันที่สองของการมาค่ายแล้ว นึกว่าจะได้อยู่เวรที่ไหนได้เป็นพี่ปีสามอยู่ทั้งหมด^^ มันเป็นแสดงถึงความเสียสละกันใหม่หมู่คณะ น่าชื่นชมมั๊ยหล่ะ(คัยไม่ชื่นแต่เราชม) ฝนตกประมาณตีสี่ เอ๊ะ.. ได้ข่าวว่าเราตากผ้าไว้มะใช่หรอ555 เปียกในที่สุดก็เปียกจริงๆ

พี่แบ่งออกเป็นสามโครง โครงแรกโครงสร้าง . สวัสดิการ . โครงสอน......ส่วนเราหรอไม่รู้คิดงัยให้เราอยู่แต่โครงสร้าง ตั้งแต่ทำค่ายมาได้อยู่แต่โครงสร้าง สงสัยจะเห็นเราเป็นผู้หญิงบอบบางมั้ง555เลยให้ทำแต่งานหนักๆ

กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำงาน มีทั้งถอนตะปู ทุบปูน ลื้ออาคาร ล่อนทราย เง้ออออออไม่ขอบรรยายแระกันนะบอกได้เลยว่า เหนื่อยโคตร

อาบน้ำ กินข้าวเย็น สันทนาการ ประชุมสรุปโครงแต่ละโครงที่ทำมาทั้งวัน และนัดแนะเตรียมคนเข้าทำงานตามโครงต่างๆสลับผลัดเปลี่ยนกันไป ทุกคนจะต้องได้ทำกันทุกโครง

ผ่านไปอีกวันแล้วนะ เวลาที่เราจะทำอะไรดีดีให้กับใครสักคนเนี่ย เวลามันช่างผ่านไปเร็วจริงๆ ว่ามั๊ย......

อ่ะๆๆๆๆๆๆเข้าเวรตั้งแต่ตีสี่ถึงหกโมงเช้า

ถึงแล้วเมืองตาก

ค่ายอาสาฯจังหวัดตาก…..............


เก็บตกก่อนออกค่าย
18.35น. ก่อนออกเดินทางอยากบอกว่า ห้า~~แวะไปหาไรกินร้านข้างๆวิลัย(เดินตามกลิ่น) ไปกัน 7 คน มันก็ตลกมั๊ยว่า..สั่งกับข้าวเหมือนกันกลัวว่าจะไปไม่ทันรถออก แต่บังเอิญ!!! พี่ดันโทรมาบอกว่า..แนนสั่งข้าวให้พี่ด้วย 7 ชุด เหอะๆ >>> สรุปแล้วไอ้เรารีบเพื่อคัย
วันนี้คงไม่มีอะไรมาก แค่รอเวลาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราออกค่าย และครั้งนี้ก็เช่นกัน มันยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม เพลงแรกที่ดังขึ้นคือ..เพลง (มันของคู่กัน)คงไม่ต้องบอกนะว่าเสียงกลองดังขึ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้นอิอิ.......มันก็ดังไง
หล่ะ^^


ถึงแล้วเมืองตาก เฮ้อถึงซะทีตากแต่จุดหมายของเราคือโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านแสมใหญ่ ตำบลสามหมื่น อำเภอแม่ละมาด
จังหวัดตาก
ตอนนี้เรากำลังอยู่อำเภอแม่ละมาด เราจะต้องขนของย้ายไปยังรถอีกคันเพื่อจะได้เดินทางอย่างสะดวก กว่าจะขนเสร็จก็ประมาณเก้าโมงไปแล้ว หมดแล้ว!!!!ต่อจากนี้คือการเดินทางอย่างแท้จริง.......










ต้นไม้ เสียงนก หมอกที่กำลังจะจางหายไปกับแสงแดดอ่อนยามเช้า บรรยากาศทิวทัศน์มันยังกะฝันเลยหล่ะ แต่ติดที่ว่าเส้นทางมหาโหด(ถนนเก่ามากๆ) ตับไตไส้พุงคงจะสลับที่กันหมดแล้ว สงสัยหลังจากกลับแล้วต้องไปตรวจเช็คร่างกายซะหน่อย ไกลแสนไกลสุดโค้งขอบฟ้า....มันนานจริงๆ กว่ารถจะวิ่งผ่านสักคันรอเป็นชั่วโมง ว้าวววว!!!!!!ถึงแล้วขอบคุณพระเจ้า พอมาถึงพวกเราก็ไปประชุมกันที่โรงอาหารของเด็กๆที่นั้น แนะนำตัวกับผู้อำนวยการให้รู้จัก ต่อไปเราจะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นั่นที่ที่ทุกคนเคารพนัพถือกัน พอไหว้เสร็จก็กินข้าว กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว พี่นัดประชุมอีกที่บ่ายสองโมงเจอกัน ค่ายนี้ได้เริ่มแล้ว
แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกไปรื้ออาคารเรียนออก ส่วนอีกกลุ่มไปขนทรายเข้าโรงเรียน(ฉ๊านนนนนนนเอง)ขนจากคลองน้ำไหล...เอ้า!!คนละไม้ละมือ ทั้งหมดก็สามคันรถกระบะมือระบมไปตามๆกันTT_____TT
แป๊บเดียวสี่โมงเย็นแระ พี่เลยพาไปเล่นน้ำตกอิอิ...แต่น่าเสียดายอีกครั้งเราดันเป็นวันนั้นของเดือน(ค่ายที่แล้วก็เป็นเง้อเซ็งเลย) หกโมงเย็นกินข้าว อยากบอกว่าเป็นอาหารที่สุดแสนจะอร่อยมากมาย (น้ำพริกกระปิ ไข่เจียว) อาหารย่อยสักพักก็ตามด้วยกิจกรรมสันทนาการ วันนี้คืนแรกของค่าย กิจกรรมเลยไม่มากเท่าไหร่ แต่พรุ่งนี้สิ ลุย!~
“ ผ่านไปอีกวันแล้วนะไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นกับวันพรุ่งนี้แต่วันนี้ฉันทำเต็มที่ที่สุดแล้ว “

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ค่ายอาสาครั้งแรก ต่อ4

วันที่หก

วันของการเดินทางไกล ว่าแล้วก็นึกถึงตอนที่ตัวเองเข้าค่ายลูกเสือ พวกเพื่อนๆตื่นตั้งแต่ตี5 ทานข้าวตั้งแต่เช้าเลยแต่เวลาออกเดินทางจริงๆก็เกือบเก้าโมงแล้ว พอดีเรานั่งอยู่แถวๆนั่นเลยอดไม่ได้ อิอิ งั้นก็ไปเดินด้วยกันนะเด็กน้อย เหลืออยู่ประมาณ 2 – 3 กลุ่มยังเตรียมตัวทัน (เย้ๆๆได้ไปแล้ว) ท่าจะสนุกแหะ เหนื่อย ล้า ร้อน หิวน้ำ ท้องทุ่ง ควาย => ไล่เพื่อนอีกกลุ่มที่เดินหลงทางอิอิ วิ่งมาราธอนเลยเอ้า!!!วิ่งเร็วๆจะเอาใจช่วย สนุกจริงๆมีทั้งหมด 8 ฐาน เราเดินได้แต่ 6 ฐานเฮ้อเหนื่อยมากมาย จากอาการปวดวันนี้ของเดือน เลยต้องนั่งรถอาจารย์ที่ผ่านมาพอดี หว๊าเสียดายจัง! เดินต่อไปนะพี่ๆน้องๆจะเป็นกำลังใจให้แล้วกัน

เย้ๆๆๆมาแล้ว เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ได้แต่เอาน้ำเย็นๆไปให้พี่เค้า คงจะเหนื่อยกันน่าดูชม อิอิ ตอนบ่ายก็มีกิจกรรมเข้าตามฐานมีทั้งหมด 6 ฐานช่วงแรกให้เด็กประถมเข้าก่อน อืม...ก็สนุกดี แต่ช่วงบ่ายเด็กมัธยมเข้าช่วงนี้เด็กมันยังเล่นสนุกกันอยู่เลยมีสีสันขึ้นมาบ้าง โดยเฉพราะกลุ่มน้องเบียร์กับน้องเหมาๆ กร๊ากกกกก เรียกเสียงฮือฮาได้มากเลยหล่ะ กลุ่มนี้มีผู้ชายสองคนนอกนั้นก็..............เป็นกันหมด 555 เด็กๆเค้าก็น่ารักดี

เย็นๆก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ ส่วนเด็กๆก็ทำอาหารกินกันเอง สนุกสนานตามวัย ว่าแต่เด็กๆไม่เหนื่อยกันบ้างรึไงเนี่ย = =*

เริ่มมืดแล้วสาวๆระบำชาวไพร/น้องดาวก็เริ่มแต่งตัวกันแล้ว ว้าวววววถึงเวลาแสดงแล้ว........การแสดงเริ่มขึ้นโดยการแสดงของเด็กกองสามทั้งหมดมีอยู่สี่กอง และเราก็ได้รับเกียจติเป็นเด็กกองห้า555 พี่ๆค่ายอาสาฯอาจารย์เรียกอย่างนั้นอ่ะ......จนเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงสี่ทุ่มการแสดงก็จบลงอย่างสวยงาม เหนื่อย!!!!!มันส์!!!!!

ปล. เมื่อตอนเช้า ผอ. บอกว่าจะพาไปเลี้ยงขอบคุณพวกเราตอน สิบโมงเช้า (อิอิจะล้างท้องไว้รอนะคะ)

.........................................................แล้วเจอกันพรุ่งนี้ทุกคน.........................................

วันที่เจ็ด

วันนี้ตื่นสายกันทุกคน เมื่อคืนอาจารย์บอกว่าจะให้พี่ๆอาสาฯมานำน้องออกกำลังกาย แต่เท่าที่ดู คือ ทุกคนตื่นสายกันหมด เหอะๆ

สายๆสักหน่อยพี่ๆที่เป็นหัวหน้าโครงต่างๆไปสำรวจงานที่ทำไว้ ส่วนเราหรอ^^ก็เตรียมตัวไปเที่ยว มีเล่นน้ำด้วยให้เตรียมเสื้อผ้าไปด้วยที่ลืมไม่ได้คือ ล้างท้องไว้กินของฟรี 555

ถึงแล้วแม่น้ำมูล (บุ่งสระพัง) เราเหมาหมดเลยสี่แพนั่ง ไม่อยากบอกว่าอาหารเยอะมากๆประเดิมด้วยยำสาวโคโยตี้ (กุ้งเต้น) แ ล้วจะมีใครกินมะเนี่ยอาจารย์ ตามด้วยส้มตำ ยำเล็บมือนาง หม้อไฟสองหม้อ ไก่อบอีกสองตัว ปลาช่อนเผาตัวโตอีกสองตัว อ่า!!!อิ่มมากมายกินอิ่มก็เล่นน้ำ ^^ (ผอ. บริการดีมาก) ตอนเล่นน้ำสนุกมากมีกิจกรรมเยอะจริงๆคงจะเล่าไม่หมดเอาเป็นว่า สนุก!!! ของแถมคือ ได้ผิดสีแทนตามมา ก็ดันเล่นน้ำกลางแดดจร้าเลยอ่ะนะ

ตอนเย็นก็มีพิธีเทียน คือพิธีที่ทุกคนจะได้บอกถึงความรู้สึกที่ได้มาอยู่ค่ายมาอยู่ร่วมกับคนอื่น มาทำงานเป็นทีม มาสร้างความกลมเกลียวความสามัคคีระหว่างพี่น้อง มีอะไรก็พูดออกมาให้หมด (ซึ้งจนร้องไห้กันเป็นแถว) ใช้เวลานานมาก......

พี่ๆเพื่อนๆพูดกันหมดแล้วก็แยกย้ายกันไปนอน พิธีนี้ทำให้เราชาวค่ายทุกคนมีความสุข ความจริงใจและรักกันมากขึ้น (ดีมากเลย) พรุ่งนี้เช้าเราจะไปเที่ยวแล้วก็จะเลยกลับไปขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯกัน ที่สถานีรถไฟวาริชภูมิเวลา 19.30 น.

วันที่แปด

ตื่นๆๆๆๆๆ..........เช้าแล้วทุกคน อิอิ เตรียมกระเป๋าเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ทุกคนไม่อยากกลับกันเลย (โลกแห่งความเป็นจริง....>>>> เกื้อการุณย์ 555) ที่นี่ให้อะไรเราหลายๆอย่าง โดยเฉพราะสิ่งศักสิทธิ์ที่ช่วยปกป้องพวกเราตลอดการทำค่าย

ทุกคนคะขึ้นรถได้แล้ว (ใจหายเหมือนกันนะเด็กๆมาส่งขึ้นรถกันเพียบมีทั้งร้องไห้ด้วยโอ๊ยยยยย!!!!อยากจะร้องไห้ตาม พูดแล้วก็เศร้า

สถานที่แรก ที่เราไปถล่มคือ เขื่อนปากมูลแต่เค้าปิดทำการเลยอด เราเลยไปที่ช่องเม็กเพื่อข้ามฝากไปที่ประเทศลาว โอ๊ะโอ!! เราลืมบัตรประชาชนมาด้วยตายแล้ว!!คนเดียวเท่านั้นคือเราเอง ทำเอาทุกคนวุ่นวายไปหมดแต่ก็ยังพอได้อย่างน้อยเราก็จำเลขบัตร ประชาชนได้ โชคดีไป โย่วๆๆๆ สบายดีลาว.............................................

.....ทุกความทรงจำจะอยู่ในความรู้สึกของเราเสมอตราบที่ยังหายใจอยู่....

ค่ายอาสาครั้งแรก ต่อ 2(แม่สาวโครงสร้าง)

วันที่สามของการมาอยู่ค่ายนี้

วันนี้เรามาอยู่โครงสร้าง ทาสีอาคารเรียน ตื่นเต้นมากๆ55ที่ตื่นเต้นเพราะวันนี้มีผู้ปกครองเด็กๆอนุบาล 1 2 3 มาประชุมเยอะแยะไปหมด แดดร้อนจัดจนจะเป็นลม(ช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดของไทย)แต่สนุกมากกว่านะกับการทาสีอาคารเรียน โดยมีภารโรง ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านบางส่วนที่มาช่วยพวกเราทาสี ทีแรกก็ดูไม่ค่อยได้แต่พอหลังๆไปค่อยเริ่มคล่อง 55ไม่แพ้ผู้ชายเลยหล่ะจะบอกให้ ทำเช้า - เย็นก็ไม่เสร็จเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยทำใหม่แล้วกัน
สรุปโครง,อ่านจดหมายที่เขียนไว้ให้บัดดี้ฟัง(เหนื่อยยยยยยยกายแต่ีรู้สึกสบายใจนะ)

วันที่สี่
อยู่โครงสวัสดิ์ ไม่อยากบอกเลยว่าเป็นวันนี้นั้นของเดือนจนได้ (อ่ะโค ตะ ระ เซ็งเลย) ปวดท้องมากมาย สงสัยเป็นเพราะเมื่อวานทำงานหนักแล้วอากาศก็ร้อนเลยกินน้ำเย็นไปเต็มที่ วันนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยนอนทั้งวัน เฮ้อเบื่อจังไม่ได้ทำอะไรช่วยเพื่อนๆเลย

......ผ่านไปอีกวันแล้วสินะแนนนี่.......

วันที่ห้า
วันนี้ก็อีกวันที่พี่ไม่ให้เราออกไปช่วยเลย แต่ก็ไปแจมๆกับโครงสร้างเพราะโครงนี้เค้ายังไม่เสร็จต้องเพิ่มเติมอะไรนิดหน่อย แต่พอตอนบ่ายๆก็เริ่มซักซ้อมละครเพื่อจะไปแสดงรอบกลองไฟกับเด็กๆ มีรำระบำชาวไพร ดาวมหาลัยแล้วก็มีบูมด้วย
ตอนเย็นๆพี่ก็ถามว่ามีคัยบ้างที่อยากจะไปเดินทางไกลกับน้องๆบ้าง (ตรงกับเด็กๆเข้าค่ายลูกเสืิอพอดี) ตอนแรกๆก็มีแค่สองคนหลังๆเพิ่มมาอีก 7 - 8 คน เราอยากไปแต่พี่ห้ามเพราะกลัวจะไม่สบายยิ่งกว่าเดิม (พลาดแล้วเรา)

"""""หลับก่อนนะ ราตรีสวัสดค่ะ"""""
____ nanny_____



ค่ายอาสาครั้งแรก ต่อ1

เช้าวันที่9 ของเดือน
(วันที่สองของค่าย) พี่แบ่งงานให้ตั้งแต่เมื่อนคืนแล้ว ส่วนเราหรอได้ไปอยู่โครงส่งเสริม(วิถีชุมชน) พี่พาเราไปสอบถามความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ความรู้เรื่อง ความดันโลหิต,เบาหวาน,โรคคนแก่ จากนั้นได้แบ่งคนกันเพื่อไปคนละเส้นทางเพราะเวลาไม่พอ
(อยากบอกว่าประสบการณ์จากตัวหนังสือหรือจะสู้ประสบการณ์จริงกับตัวเอง)..........

ยามบ่ายแดดแก่ๆ.....เหนื่อยล้าจากการเดินทางตากแดด เราก็เลยเดินไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของที่นั่นมีแต่เด็กๆที่น่ารักกันทั้งนั้นเลย เด็กๆสนุกสนานกันเต็มที่เราได้เห็นเด็กๆหัวเราะทำให้เรามีความสุขมากแล้วหล่ะ(คนแก่)

คืนนี้เป้นวันแรกที่ปฏิบัติภาระกิจสินะ ก่อนพี่ๆก็สรุปโครงแต่ละโครงที่ได้ไปทำมาวันนี้ให้ฟัง และอุปสรรคในการทำงาน
อิอิ หลับก่อนนะฝันดีค่ะชาวค่ายทุกๆคน

ค่ายอาสาครั้งแรก

วันแรกของการเดินทางไปค่ายอาสาฯที่บ้านดง อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี 7-15 มีนาคม
มันช่างเงียบเหงาจนได้ยินเสียงหัวใจของฉันมันเต้นดัง แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปค่ายมากๆ เพื่อยนๆต่างก็พากันแบกสัมภาระขึ้นรถวิลัย พวกเราไปไว้สิ่งศักสิทธิ์ที่คอยปกป้องวิทยาลัยของพวกเรา เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการทำงานอาสาครั้งนี้



ณ สถานีรถไฟสามเสน รถวิลัยก็ไปถึงประมาณเกือบหกดมงเย็นเวลาเดินทางจริงๆ คือ 19.30น. ออกจากสถานีเรานำสัมภาระไปวางแต่วางผิดที่เราย้ายของกันถึงสามครั้งแต่ทุกคนก็แสดงความสามัคคีกันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว จากนั้นระหว่างรอรถไฟพี่ๆบอกให้ไปหาอะไรทานรองท้องก่อน เพื่อนๆก้แยกย้ายกันตามนั้นส่วนเราคงจะหาเสบียงเก้บไว้ทานบนรถไฟเพราะตอนดึกต้องหิวแน่ๆเพราะข้าวของที่ขายบนรถไฟมันต้องขายแพงกว่าปกติ เมื่อทุกคนมารอรถไฟที่จุดเดียวกันเสียงหัวเราะเสียงพูดคุยก้ดังขึ้นทำเอาคนแถวนั้นหันมามองกันเป็นแถว(คนพูดยังไม่รู้สึกอีก = =") พอรถไฟมาถึงเราก้จับจองที่นั่งกัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่เราเคยนั่งรถไฟ พี่ๆจัดกิจกรรมสันทนาการบนรถไฟได้อย่างสนุกสนานพร้อมกับความตื่นเต้นของทุกคน ทำให้กิจกรรมครั้งนี้สำเร็จไปด้วยดี เย็นระหว่างเดินทางนั้นก็มีพ่อค้าแม่ขายนำของที่ตัวเองทำหรือรับมาจากเถ้่าแก่มาขายบนรถไฟผความสามรถเฉพราะตัวจริงถ้าใครพูดเก่งก็ขายได้หน่อย) จนถึงโคราชบ้านเอง โอ้พระเจ้า!!!!!! มันช่างคล้ายกับวิณญาณหลอนเลยทีเดียวอิอิ จุ๊ๆเงียบๆเข้าไว้555(ความลับ) สรุปว่าคืนนั้นเราได้ยินแต่เสียงโหยหวนทั้งคืน อิอิ ถ้าใครมีโอกาสลองไปนั่งรถไปผ่านแถวๆโคราชนะแล้วจะรู้ว่ามันคืออะไร................

เช้าวันที่ 8 ของเดือนเราเก้บของลงรถไฟพร้อมกับความตื่นเต้นของพวกเราและคนที่นั่นดูท่าจะตื่นเต้นกับความเสียดังของพวกเราเองแหละ^^ เอะยังงัย เหอะๆ สิ่งแรกคือ ทางไปห้องน้ำอยู่ไหน ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันเ้ข้าห้องน้ำแล้วก็รอรถที่จะมารับพวกเราเข้าสู่ค่ายจริงและแล้วรถก้มาถึงพร้อมกับพี่ประธานค่าย ปี3 และพี่เชื้อของเราเอง(พี่รหัส) ระหว่างเดินทางไปเราได้ร้องเพลงประจำรุ่น ของแต่ละชั้นปีอย่างสนุกสนานแล้วก้ผ่านตลาดสดเลยแวะซื้อข้าวของที่จะไปทำกินกันระหว่างอยู่ค่ายกัน

ถึงแล้ว..........บ้านดงบัง(รร.บ้านดงบัง ชื่อยังกะวงนักร้องเกาหลีวงนึง) เราไปไหว้พระที่ดูแลรักษาและปกป้อง รร. ให้คุ้มครอง ดำเนินงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เราแยกย้ายกันไปเก็บของดดยมีห้องของน้องอนุบาล 2 ห้อง เป้นที่พักระหว่างอยู่ค่ายอาสาฯ กินข้าวเสร็จพี่ประธานพาเราไปสำรวจบริเวรค่ายที่จะทำว่ามีอะไรบ้าง โดยวันนั้นมีงานบุญประจำปีี่ที่นั่น เราได้รับเกียจติให้ไปร่วมขบวนด้วย ไม่อยากจะบอกเลยว่าพวกเราตื่นเต้นกันทุกคนเลยหล่ะ อิอิ
วันนี้ของพักผ่อนเอาแรงก่อนแล้วกัน เพราะพรุ่งนี้เราจะได้เริ่มปฏิบัติงานเลย.........










วันนี้ฝนตก

สักวาหน้าหนาวช่างหนาวนัก

ขาดไอรักมาห่มใจให้หายหนาว

อันหนาวกายห่มผ้ายังพอคลาย

แต่หนาวใจแทบตายใครบรรเทา

ลมเหมันต์พัดผ่านมานานครั้ง

ยินสำเนียงเสียงฟังช่างหงอยเหงา

จะมีใครบ้างไหมคล้ายกับเรา

ต้องทนเสร้าหนาวในใจไร้รักเอย

.....................................



ขออนุญาตคิดถึงเธอนะ

เพราะหากจะรู้สึกคิดถึงใครสักคนนั้น

แม้ว่าวันนี้ยังไม่ใช่คนรักของฉันเลยก็ตาม...ที...

แต่คงไม่เป็นไรใช่มั๊ยที่จะขอคิดถึงเธอ

หากจะขอให้เขาเป็นคนที่ฉันรัก

และมีเขาอยู่ในใจ

เพียงแค่นี้ในใจได้........แค่คิดถึง

สำหรับวันนี้และัวันหนึ่งก็พอ.......แค่นี้จริงๆ

และเธอจะอยู่ในใจฉันตลอดไป


/////////@@/////////



ฉัน...ยังสำคัญกับเธออยู่ไหม

มี...เหลือแค่ไหนกับความรักจากวันนั้น

ค่า...ของคนนี้กับเดือนปีที่ผูกพัน

แค่...ความรักจากฉันมันพอรึเปล่าคนดี

ไหน...ที่เคยบอกว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง

กัน...สิ่งที่แสดงมันต่างเหลือเกินในวันนี้

ใจ...จริงรู้สึกยังไง หมดหรือยัง...เยื่อใยที่เคยมี

เธอ...รู้คำตอบดี ช่วยเฉลยสิว่าฉันควรอยู่หรือไป

(ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่ความรักเพียงแรกพบ)


""""""""______"""""""""



เธอจากฉันไปแล้วในวันนี้

รู้ตัวดีอยู่เสมอในวันนี้

เพราะว่าเธอไม่เคยคิดจะรักกัน

เห็นฉันเป็นแค่ทางผ่านแล้วจากไป

ในวันนั้นเธอมีเขาอยู่เคียงข้าง

ถ้าฉันมีบ้างปวดใจไหม

ฉันอยากรู้ว่าเธอจะคิดยังไง

แต่ตอบทีฉันปวดใจเกินจะทน



TT____TT////

ขอขอบคุณนิตยสาร "กุลสตรี"สำหรับบทกลอนดีๆ



มาร์ชพยาบาล

อันความกรุณาปราณี

จะมีใครบังคับก็หาไม่

หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ

จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน

ข้อความนี้องค์พระธีรราชเจ้า

พระโปรดเกล้าประธานให้ใจถวิล

ใช้คุณค่ากรุราไว้อาจิณ

ดั่งวารินจากฟ้าสู้สากล

อันพวกเราเหล่านักเรียนพยาบาล

ปณิธานอนุกูลเพิ่มพูนผล

เรียนวิชากรุณาช่วยปวงชน

ผู้เจ้บไข้ได้พ้นทรมาน

แม้ดรคร้ายจะแพร่พิษถึงปลิดชีพ

จะยึดหลักดวงประทีปคือสงสาร

ยอมเหนื่อยยากตรากตรำใจสำราญ

อุทิศงานเพื่อคนไข้ทั้งใจกาย


(ผุดผ่องพราวคือน้ำใจ)


ฝันสีขาว

เราเฝ้าฝันถึงวันอันสดใส


นานเพียงใดที่เราเฝ้าคอย


ฉันและเธอต่างจับมือหมายมั่น


สู่เส้นทางนั้นสีขาวยาวไกล


จะไปจะไปให้ถึง


แสงจากเทียนดวงหนึ่งมุ่งไป


พวกเราจะรวมจะร่วมกายใจ


ช่วยชนพ้นภัยด้วยน้ำใจเกื้อการุณย์



วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พรุ่งนี้แล้ว

พรุ่งนี้แล้วที่ฉันจะออกเดินทางไปทำอะไรดีๆให้กับสังคม
(พูดแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ยังไงไม่รู้แฮะ^^)
แต่ยังไงก็ช่างมันเถอะแค่ได้ไปช่วยก็พอแล้วนี่.....
เราจะออกเดินทางประมาณสองทุ่มจากกรุงเทพฯโดยรถบัส
กว่าจะไปถึงก็คงจะใกล้กับเวลากินข้าว(เที่ยง)
ขอให้ฉันและเพื่อนๆพี่ๆเดินทางโดยปลอดภัย
เพราะเด็กๆที่นั่นยังคอยความหวังจากพวกเรานี่^^
........................ แนนสู้ๆนะ อิอิ...............................

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ลั๊นลั๊นลา~~~~~~~

มองๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

จองๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อิอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

การที่เราจะสร้างความสุขเล็กๆน้อยๆให้กับชีวิตมันไม่ใช่เรื่องยากหรอก
หากเราเปิดใจต้อนรับกับมัน แค่นี้ชีวิตเราก็มีความสุขได้โดยไม่ต้องใคร่ขว้า
หามาจากไหนเลย

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อากาศดีจัง เย้ๆๆๆๆ


นี่คงเป็นอีกวันนี้ที่ฉันอารมณ์ดีเป็นพิเศษ อิอิ

วันเวลาผ่านไปคนเรามักลืมหาความสุขให้กับตัวเอง

ทำงานหาเงิน เรียน แต่ละวันผ่านไปด้วยความตรึงเครียด

จนลืมบางอย่างไป

อะไรที่มันผ่านมาแล้วก็อย่าไปคิดถึงมันเลย ยังงัยมันก็ผ่านมาแล้วนี่!

ยิ้มให้กับวันนี้ดีกว่านะ
5-10-2552

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ครึ่งทาง


ใกล้แล้วสินะ ใกล้จะถึงวันที่เรารอแล้ว ก้าวที่สองของฉันฉันต้องก้าวผ่านอตีดมาอย่างเจ็บปวดและในวันข้างหน้่านี้ ฉันก็หวังว่า ฉันจะต้องทำให้มันดียิ่งขึ้นไป เพราะฉันได้เรียนรู้จากอดีตมาแล้วว่า...... มันไม่น่าชื่นชมสักเท่าไหร่ฉันจะเก้บเอาไว้เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลย เชื่อสิ!

หากวันหนึ่ง


หากวันหนึ่งคนที่เริ่มคือฉันทั้งหมด
ฉันแค่อยากจะทำอะไรก้ได้ที่ตามใจฉันต้องการ(เหนื่อยจัง) อยากออกเดินทางไปทั่วโลก
หากฉันทำได้ >> ฉันอยากจะมีเงินสักก้อน ไม่สิ! อะไรก็ได้ ฉันอยากจะมีส่วนช้วยเหลือสังคม อาจจะไม่มีอะไรที่ทำให้สำเร็จด้วยตัวเอง แต่อาจจะใช้มือคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันร่วมด้วยช่วยกัน(คนอาสาฯ) ถ้าฉันมีเงินฉันจะไปช่วยคนที่เขาเดือดร้อนกว่าเรา
และฉันก็ขอให้คนที่ทำความดี ได้เจอแต่สิ่งดีๆได้เกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเค๊าบ้าง
ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นแม้มันจะผิดรูปไปนิด >>ฉันเชื่ออย่างนั้นนะ^^
ขอเวลาทำใจ
29 -03-2552

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บางที

บางที การที่เราอยู่กับความเหงา.....................................

มันทำให้เราเรียนรู้ในบางเรื่องที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน.....ว่ามั๊ย.....(. . )( . . )

////////////@@@@@/////////////

ไม่ใช่คนอ่อนแอเสมอไป ไม่ใช่คนอ่อนแอเสมอไป ไม่ใช่คนอ่อนแอเสมอไป
1-02-2552/ 19.25น.
แต่ก่อนหน้านี้ ฉันได้แต่ห่วงคนอื่นตลอดคนนั้น คนนี้ว่าเค๊าจะเป็นอย่างไรบ้าง ต้องการอะไรมั๊ย
แต่หลังจากนี้ฉันคงต้องห่วงตัวเองให้มากๆมากกว่าเดิม ...เท่าที่ฉันรู้เค๊าไม่เคยห่วงฉันเลยแม้สักครั้ง
แต่ไม่เป็นไร แค่ขอให้ฉันดูแลพวกเค๊าอยู่ห่างๆ บางทีเค๊าอาจจะมองมันไม่สำคัญ
แต่ฉันก็อยากจะทำแบบนี้ ฉันดีใจมากกว่าที่ทำให้พวกเค๊าได้ยิ้มได้หัวเราะเพราะกับคนตัวเล็กๆอย่างเรา

ขอแค่นี้จริงๆ
21-11-2551/21.00น.

เมื่อตอนเย็น

เมื่อตอนเย็นๆ ฝนตกหนักเลย (อีกอย่างน่ากลัวมากๆ)
วันนี้นอนไม่หลับเลยอ่ะก็ดันนอนตั้งแต่บ่าย 3 - ทุ่มครึ่ง เลยเปิดวิทยุฟังดีเจเล่าว่า......
คนที่เกิดวันอังคารควรใส่แหวนนิ้วกลางข้างซ้ายเท่านั้น มีลักษณะหนาไม่แตกหักง่ายและคงทน
(คงจะมีอย่างเ้ดียวคือ พวกแหวนโลหะทั้งหลายมะงั้นก็ใส่ทองไปเลย^^~)
ถ้าทำตามแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามาใขชีวิต ..บางทีฉันก็รู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป มัันใช่ความรักรึป่าวนะ? ( จากใครสักคนที่เข้าใจเรา )
เฮ้อ!!!..แต่ตอนนี้ไม่ควรจะมาคิดเรื่องฟุ้งซ่านสิ่งที่ควรคิดตอนนี้ คือ อนาคต ปัจจุบันและปัจจุบัน
เท่านั้น!!~...........คิดทีไรมันท้อทุกทีเลยเฮ้อ!!!!!!

โอ้ชีวิต
8-11-2551

วันนี้เมื่อวันวาน

วันนี้.......

หลังจากที่เมื่อคืนฝนตก ทำให้เช้านี้อากาศดีมากเลยเจ้านกน้อยออกมาหากินในท้องนภาตั้งแต่เช้าตรู่ ผู้คนลุกขึ้นมาทำงานอย่างแข้งขัน แล้วก็มีเพลงทะเลใจ(ของพี่แอด คาราบาว ที่เราชื่นชอบ) ดังขึ้นมามันเข้ากับบรรยากาศได้ลงตัวเลยที่เดียว โดยเฉพาะวิวที่มองรอดผ่านกระจกบานใหญ่ข้างเตียงนอนของฉัน(ที่หอพัก)
ในเพลงมีประโยคนึงที่ชอบ บอกว่า...
* อย่ามัวตามหาแต่ความฝัน แต่ใจ* ในร่างกายกับหาไม่เจอ
* เพราะสิ่งสำคัญในร่างกาย คือ หัวใจ.....ของเรา
ถ้าหากคนเราไม่ได้เป็นในสิ่งที่ตัวเองฝันเอาไว้ เราก็ควรจะเป้นในสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพื่อาเราจะนำสิ่งที่เรียกว่า..."เป็น"...มาเป็นฐานที่จะก้าวขึ้นไปสู่ความฝันอย่างมั่นคง โดยมีฐานและความเป็นจริงคู่กัน
"ฉันได้รับโอกาสและความฝัน" ฉันดีใจ สุขใจ สุขทุกอย่างเลย แต่ถ้าฉันเสียโอกาสหรือมันวิ่งผ่านฉันไป ฉันรัก ฉันชอบ ฉันดีใจในสิ่งที่ฉันอยากเป็น
โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ชีวิตของเราก็เหมือนกันขอแค่ไม่ทำให้คัยเดือดร้อนแค่นี้ก้พอแล้วสินะ